แม่เผยคำอำลาก่อน มีทรัพย์ ต.อิทธิพร นักมวยดาวรุ่ง สิ้นใจ  ก่อนย้อนถามมือปืนฆ่าลูกฉันทำไม

ที่วัดพยัคฆภูมิวราราม  ต.ปะหลาน  อ.พยัคฆภูมิพิสัย  จ.มหาสารคาม  ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพ  นายนันทพงศ์  รักพร้า  หรือน้องฟิวส์  อายุ 16 ปี  เจ้าของฉายา “มีทรัพย์ ต.อิทธิพร”  นักมวยเยาวชนดาวรุ่งชื่อดัง  ที่ถูกกลุ่มคนร้ายจ่อยิงแสกหน้า  จนเสียชีวิตที่ จ.อุดรธานี โดยญาติได้นำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดดังกล่าว  ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องฟิวส์  โดยมีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว  ต่างก็เดินทางนำพวงหรีดดอกไม้  และพวงหรีดพัดลมมามอบให้  เพื่อเป็นการเคารพศพ  และแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต  โดยบรรยากาศงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศก

นางสุกัญญา  รักพร้า  มารดาของน้องฟิวส์  กล่าวว่า  ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดกับครอบครัวตน น้องฟิวส์ เป็นเด็กดี  มีความรับผิดชอบ  เริ่มชกมวยจริงจังตั้งแต่อายุ 9 ขวบ  ไม่เคยเกเร  พอกลับมาที่บ้านก็จะเป็นคนติดบ้าน  ไม่เที่ยวเตร่  เล่นอยู่แต่กับน้องสาว  และญาติพี่น้องในบ้าน  เป็นคนที่มีวินัยต่อตนเอง  พอกลับมาจากค่ายมวยมาพักผ่อนที่บ้านก็ยังมาออกกำลังกาย  มาซ้อมมวยอยู่บ้าน ภายหลังจากทราบข่าวว่าน้องถูกยิง  ขณะนั้นตนเองอยู่บ้านที่ จ.มหาสารคาม  ก็รีบขับรถไปกับพ่อของน้อง  เมื่อแม่ไปถึงที่โรงพยาบาลก็ได้เข้าไปเห็นสภาพของน้อง แม่จึงได้เข้าไปพูดคุยกับน้องถามน้องว่า  ฟิวส์ครับ  สู้มั้ยลูก  ถ้าสู้ก็อยากให้ลุกขึ้นมา  แม่อยากให้ลูกสู้  ไม่ว่าลูกจะกลับมาสภาพไหนแม่ก็จะสู้  เวลานั้น  รู้สึกเหมือนใจจะขาด และเมื่อแม่ดูแล้วว่า  ลูกของแม่ไม่ไหวจริง ๆ แม่จึงได้พูดกับน้องอีกว่า  ฟิวส์ครับ  ถ้าเหนื่อยก็พัก  ถ้าไม่ไหวแล้วก็พักนะลูก  แม่จะอยู่ให้ได้  และแม่จะอยู่ให้ได้อย่างดี  จากนั้นน้องก็ค่อย ๆ จากไปอย่างสงบ  ซึ่งตลอดชีวิต 15 ปี  ฟิวส์คือความหวังของคนในครอบครัว

อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้เร็ว ๆ อยากถามว่าทำไมเค้าถึงตัดสินชีวิตลูกของตนเองแบบนี้  เค้าเกเรตรงไหน  ทำไมตัดสินชีวิตลูกฉันแบบนี้  ที่สำคัญเค้าไม่สามารถฟื้นขึ้นมาเล่าอะไรได้  มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะจับคนร้ายได้ในเร็ววันนี้

รายงานข่าวล่าสุดเเจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี และสภ.หนองหาน  ได้ร่วมกันสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 17-21 ปี จำนวน 9 คน ชาว ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ที่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงน้องฟิวส์  พร้อมยืดอาวุธปืน และนำภาพกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป