จับแล้วมือวางยาพิษ ตร.เผยลูกสาวเป็นคนวางยาพิษในน้ำดื่ม ทำน้องสาวต่างพ่อดับ แม่และหลานถูกหามส่งโรงพยาบาล สารภาพทั้งน้ำตาสาเหตุที่ทำน้อยใจ เพราะแม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็ก และกีดกันเรื่องแฟน
ความคืบหน้ากรณีวางยาพิษในน้ำดื่ม หวังฆ่ายกครัว ที่บ้านหนองตูบ หมู่ 10 ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งมีผู้ที่ดื่มน้ำและได้รับสารพิษรวม 4 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ ด.ญ.สุภัสสรา ดาหอม หรือน้องกระเพรา อายุ 4 ปี ส่วนอีก 3 คน ประกอบด้วย นางสาวนุชจรี ศรีสัง อายุ 32 ปี แม่ของน้องกระเพรา ด.ญ.กนกวรรณ พลจ่า หรือน้องยิ่ง อายุ 7 ปี และ ด.ญ.ธนวรรณ พลจ่า อายุ 3 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของน้องกระเพรา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ พร้อมด้วยชุดสืบสวนภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมตั้งประเด็นการสืบสวนไว้หลายประเด็น ทั้งปมขัดแย้งภายในครอบครัว และขัดแย้งกับบุคคลอื่น
พ.ต.ท.มงคล ไหวดี รองผู้กำกับสืบสวน สภ.บรบือ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวน สภ.บรบือ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เพื่อหาหลักฐานประกอบคดี โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้มีการเรียกสอบพยานไปแล้ว 3 ปาก ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ นางสาวนุชจรี ศรีสัง แม่ของน้องกระเพราไปแล้ว ซึ่งยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร เพราะได้ย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่อำเภอนายูง จ.อุดรธานี จนมีลูก 2 คน คือ น้องไบกอน ลูกชาย อายุ 10 ปี และน้องกระเพรา อายุ 4 ปี คนเสียชีวิต ซึ่งนาน ๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้าน โดยครั้งนี้ที่กลับมาบ้านเพราะพ่อไม่สบายเข้าโรงพยาบาล จึงได้มาเยี่ยมพ่อที่ป่วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัว พี่สาวต่างพ่อ ของน้องกระเพรา ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี มาสอบสวน โดยพี่สาวต่างพ่อมีอาการพิรุธ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงเปิดปากยอมรับสารภาพว่าเป็นคนผสมยาฆ่าแมลง และนำไปเทลงในกระติกน้ำ หวังที่จะทำร้ายแม่ เนื่องจากน้อยใจที่แม่ไม่เคยมาดูแล ทิ้งตนให้อยู่กับตายายตั้งแต่อายุ 16 วัน และไปมีครอบครัวใหม่ อีกทั้งแม่มาทราบเรื่องว่า ตนเองกับคบหาดูใจอยู่กับแฟนหนุ่ม แต่ก็ถูกกีดกันให้เลิกกัน ทำให้เกิดความคับแค้นใจจนก่อเหตุดังกล่าว แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าตัวก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างการสอบสวนก็ร้องไห้ตลอดเวลา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังดำเนินการสอบสวนไม่แล้วเสร็จ ยังต้องมีการนัดทีมอัยการและสหวิชาชีพ มาร่วมสอบสวนด้วย เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน โดยจะทำการร่วมกันสอบสวนมูลเหตุและทำสำนวนตามขั้นตอน โดยละเอียดในวันพรุ่งนี้
