ตั้งด่านเข้ม 12 จุดหลังพบผู้ป่วยCOVID19จำนวน 1 ราย มีประวัติเดินทางข้ามจังหวัด

เข้มจุดตรวจCOVID19 ทั่วจังหวัด 12 จุดหลังพบผู้ป่วย 1 ราย มีประวัติเดินทางข้ามจังหวัด

หลังจากที่ศูนย์บัญชาการ COVID-19 จังหวัดมหาสารคาม โดยนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายแพทย์ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 และติดตามผู้สัมผัสเสียงสูง กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยล่าสุด พบผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม 1 ราย เป็นชาย อายุ 48 ปี เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และมาพักอาศัยในพื้นที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ก่อนมีอาการปวดท้อง เหนื่อย หอบ เจ้าหน้าที่ซักประวัติเพิ่มเติม พบเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จึงได้เก็บสิ่งส่งตรวจ โดยครั้งแรกผลออกมาไม่ชัดเจน ได้รับคำแนะนำให้ส่งสิ่งส่งตรวจอีกครั้ง ผลยืนยันว่าพบเชื้อเมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 8 มีนาคม 2563 ทำให้จังหวัดมหาสารคามมีผู้ป่วยโรคCOVID19 จำนวน 1 คน


ดังนั้นเพื่อเป็นการคุมเข้ม เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 จังหวัดมหาสารคามจึงเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจ คัดกรองทั่วทั้งจังหวัด จำนวน 12 จุดตรวจ โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด เพื่อคัดกรองผู้ป่วย โดยใช้มาตรการป้องกันคุมเข้มป้องกันและลดความเสี่ยงจากไวรัสโคโรน่า COVID-19 ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ต้องไม่มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


เช่นที่จุดตรวจหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ถนนสายมหาสารคาม-กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ผ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุขอำเภอ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกันทรวิชัย ได้สนธิกำลังตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้ป่วย COVID-19เข้ม 2 เท่า ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผลัดเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งกลางวัน และกลางคืน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจรถทุกคันที่วิ่งผ่าน โดยนำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจวัดร่างกายของคนขับและผู้โดยสารทั้งที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารทุกชนิดอย่างเข้มแข็ง พร้อมซักถามประวัติที่จุดลงทะเบียนบริเวณภายในเต็นท์ หากอุณหภูมิสูงเกินกำหนด เจ้าหน้าที่จะให้พักผ่อน 15 นาที ก่อนวัดใหม่ หากอุณหภูมิไม่ลด จะมีเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลกันทรวิชัย เพื่อรักษาตามขั้นตอน

หลังจากตั้งจุดตรวจ 2 วัน มีผู้ที่มีอาการผิดปรกติ 10-15 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าสอบสวนโรค เมื่อซักถามประวัติไม่พบประวัติเข้าเกณฑ์นิยามโรคติดเชื้อโคโรน่า COVID19 และประวัติการเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยง จึงจดชื่อที่อยู่ เบอร์โทร ก่อนแนะนำให้กลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน