แพทย์ รพ.มหาสารคาม แนะนำประชาชนกินอาหารเจสุขภาพดี แนะเลี่ยงเมนูผัด-ทอด หรืออาหารที่ใช้ปริมาณน้ำมันเป็นส่วนประกอบสูง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายสะสมไขมัน เสี่ยงภาวะโรคอ้วน
ในเทศกาลกินเจ พ.ศ. 2561. ซึ่งเริ่มตั้งแต่ตอนเย็น วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม จนถึงเย็นวันพุธที่ 17 ตุลาคม ถือเป็นเทศกาลถือศีล ละเว้นบาป ชำระล้างร่างกายด้วยการละเว้นการทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีมาตั้งแต่บรรพกาล ที่ชาวจีนถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.มหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจจะเห็นได้ว่าอาหารส่วนใหญ่จะเป็นของทอดและผัด จึงแนะนำว่าหากจะทานของทอด ต้องพิจารณาความสะอาดของน้ำมันที่คนขายใช้ ต้องไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ซึ่งจะมีสารที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งต่อร่างกายได้ และไม่ควรทานควบคู่กับผัดผักหรืออาหารที่ใช้ปริมาณน้ำมันเป็นส่วนประกอบสูง ส่วนอาหารดองเค็ม เช่น ผักกาดดอง หัวไชเท้าดอง ผักดองบางชนิดก็เอามาทำเป็นแกงหรือผัด ความเค็มนั้นจะสูงมาก ควรนำมาล้างหรือแช่น้ำเพื่อลดความเค็ม เพราะอาหารที่เค็มจะมีโซเดียมมาก ทำให้เกิดอาหารกระหายน้ำ และดื่มน้ำมาก เกิดความดันโลหิตสูงตามมาโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางไต โรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูงอยู่เดิม อาจทำให้เกิดหัวใจวาย บวมน้ำได้ ทั้งนี้การกินเจจะทำให้รู้สึกหิวบ่อย ควรรับประทานผลไม้แทนขนมหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง
นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล เพิ่มเติมว่า อาหารเจทุกอย่างดีต่อสุขภาพ แต่อยู่ที่เราเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หากทานไม่ถูกหลักจะเป็นการทำร้ายสุขภาพได้ ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเจหรืออาหารมังสวิรัติติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ขาดสารอาหารบางชนิด แนวโน้มของปัญหาทางโภชนาการที่เกิดขึ้นได้สำหรับผู้ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติ ได้แก่ การขาดสารอาหาร ประเภทโปรตีน วิตามินบางชนิด ซึ่งจะมีแหล่งที่มาจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแนวทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้ผู้ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติมีสุขภาพที่ดีได้ คือ การเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าให้ขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งใน 1 วัน แหล่งโปรตีนที่สามารถทดแทนเนื้อสัตว์ได้ ได้แก่ พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง และโปรตีนเกษตร เลือกทานข้าวกล้อง ข้าวสี มากกว่าข้าวขาว หรือข้าวขัดสี เพราะมีสารอาหารและวิตามินต่างๆ มากกว่า ซึ่งจะสามารถป้องกันปัญหาการขาดสารอาหารได้